Categories
ความรู้เกี่ยวกับยาสตรี

ยาสตรีดีอย่างไร

ยาสตรีดีอย่างไร

ความรู้เกี่ยวกับยาสตรี

สรรพคุณของยาสตรีหลากยี่ห้อ เหมือนหรือแตกต่าง? | TrueID In-Trend

 

ยาสตรีมีประโยชน์ เมื่อพูดถึงยาสตรีก็แน่นอนว่าต้องเป็นยาที่คู่กับเพศหญิง ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผู้หญิงมีสุขภาพที่เป็นปกติมากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว..ปัญหาส่วนใหญ่ของคุณผู้หญิงมักจะหนีไม่พ้นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์หรือประจำเดือน ซึ่งยาสตรีก็เข้ามามีบทบาทในการรักษาอาการเหล่านี้ได้เป็นอย่างนี้

บางคนเชื่อว่ายาสตรีจะช่วยแก้ปัญหาของผู้หญิงทั้งหมด หรือแก้ปัญหาของคุณผู้หญิงได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาประจําเดือน สิว อาการปวดท้อง ทั้งที่ยังไม่ทราบสรรพคุณที่บรรจุอยู่ในยาสตรีเลยด้วยซ้ำ หากคุณก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังสนใจในความสามารถพิเศษของยาชนิดนี้ หรือกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ยาชนิดนี้ดีหรือไม่ ลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่ายาสตรีมีดีอย่างไร?

 ส่วนประกอบที่สำคัญของยาสตรีโดยส่วนใหญ่จะสกัดมาจากสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยสามารถแบ่งส่วนประกอบออกได้เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ ยาสมุนไพรขับลมหรือเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ เช่น กานพลู การบูร แก่นฝาง ขมิ้นชัน พริกไทย เทียนดำ เทียนแดง เป็นต้น สมุนไพรเสริมฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ว่านชักมดลูก กวาวเครือขาว หรือตังกุย alcohol เป็นตัวทำละลายเพื่อสกัดเอาตัวยาออกจากสมุนไพร ซึ่งจะมีผลทำให้การดื่มยาสตรีมีผลต่อเลือดลมที่สูบฉีดได้ดีมากขึ้น ในส่วนของสมุนไพรที่ส่งผลต่อฮอร์โมนเพศหญิง 

  ตัวที่มีบทบาทสำคัญและส่งผลอย่างยิ่งต่อคุณสาวๆ ก็คือ ว่านชักมดลูกและตังกุย ซึ่งเหตุผลที่สมุนไพร 2 ตัวนี้ถือเป็นสมุนไพรหลัก ก็เนื่องมาจากในสมุนไพรมีสารไฟโตเอสโตรเจนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในสมุนไพรทั้งสอง โดยสารตัวนี้เป็นสารที่มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง ดังนั้น การที่ผู้หญิงดื่มยาสตรีที่มีฮอร์โมนตัวนี้เพิ่มเข้าไป จึงเปรียบเสมือนการเพิ่มฮอร์โมน ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนที่เหมาะสมในร่างกายได้ และยังทำให้คุณผู้หญิงมีระบบประจำเดือนที่เป็นปกติมากขึ้นด้วยเมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยยาสตรีในปริมาณที่เหมาะสม

 

แต่ถ้าหากสาวๆ กำลังประจำเดือนไม่มาอยู่ล่ะก็ ลองเข้าไปดูตามนี้นะคะ

ประจำเดือนไม่มา

© 2020 ยาสตรี.com – All rights reserved.

Categories
ความรู้เกี่ยวกับยาสตรี

ตกขาวทำอย่างไร

ตกขาวทำอย่างไร

ความรู้เกี่ยวกับยาสตรี

ตกขาว คือ การที่มีของเหลวสีขาวใสหรือขาวขุ่นที่ออกมาจากช่องคลอด เป็นเรื่องที่สาวกังวลอย่างมาก!!! ความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในช่องคลอดของผู้หญิงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยจริง ๆ โดยเฉพาะอาการตกขาวที่รู้สึกว่าไม่ปกติแน่ ๆ เพราะทั้งมีกลิ่นและสีก็เปลี่ยนไป เอ๊ะ ! 

อาการตกขาวของเราเป็นสัญญาณของโรคอะไรหรือเปล่า มาศึกษาเรื่องตกขาวของสาว ๆ “ตกขาว”เป็นเรื่องที่สาวๆหลายคนกังวล แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะตกขาวเกิดจากการที่ต่อมภายในช่องคลอด และปากมดลุกผลิตของเหลวซึ้งนำพาเซลล์ที่ตายแล้ว และแบคทีเรียออกมา เพื่อทำความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ ปริมาณตกขาวจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน โดยจะมีสีใสไปจนถึงสีขาวขุ่นแบบน้ำนม ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาตามรอบเดือน โดยในขณะที่มีการตกไข่หรือให้นมบุตรตกขาวอาจมีสีและกลิ่นเปลี่ยนแปลงไป แต่ถ้าสีและกลิ่นเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ร่วมด้วยอาการคันหรือเจ็บแสบบริเวณช่องคลอด นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าเกิดการติดเชื้อเข้าแล้ว

วิธีแก้ตกขาว แบบง่ายๆ | เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นด้วยสินค้าที่ดี

 

ลักษณะของตกขาวที่เราอาจพบได้
 1.ขุ่นมีสีเหลือง – อาจมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น Gonorrhea เลือดออกระหว่างรอบเดือน หรือมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ 
2.สีขาวหนาเป็นก้อน – เกิดจากการติดเชื้อราจนมีอาการบวม แดง คันบริเวณอวัยวะเพศ เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ 
3.สีขาว เทา หรือเหลือง มีกลิ่นน้ำคาวเหมือนปลา – เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการคัน แสบ แดง และบวมบริเวณอวัยวะเพศ 
4.สีเหลือง เขียว มีฟองปน – อาจเกิดจากการติดเชื้อปรสิต Trichomoniasis มักมีอาการปวดและคันเวลาปัสสาวะร่วมด้วย 
5. ปนเลือดหรือมีสีน้ำตาล –  ประจำเดือนมาผิดปกติไม่ตรงรอบ หรือที่พบได้ไม่บ่อยคือเกิดจากมะเร็งโพรงมดลูกหรือมะเร็งปากมดลูก อาจมีอาการปวดท้องน้อยหรือมีเลือดออกผิดปกติร่วมด้วย 

ตกขาวคืออะไร: ปกติไหม? เกิดอะไรขึ้นกับจุดซ่อนเร้น? - แคร์ฟรี ประเทศไทย

การป้องกันการเป็นตกขาว 1. ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานๆ ถ้าหากไม่มีความจำเป็น 2. ควรรับประทานอาหารที่สดใหม่และมีคุณภาพ ดื่มน้ำให้เยอะๆ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอและที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ 3.ใส่กางกางที่มีขนาดเล็กกว่าไซต์ตัวเองหรือรัดเกินไป 4.ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดเพราะช่องคลอดสะอาดอยู่แล้ว

การรักษาอาการตกขาว 

— ดื่มยาคูลย์ เป็นประจำ เพื่อเพิ่มจุลินทรีชนิดดีให้กับร่างกายและเข้าไปทำลายแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นคาวที่ไม่พึงประสงค์ 

— สวมกางเกงในที่นุ่ม สะอาด ใส่สบายและต้องไม่อับชื้นด้วย

 — เวลามีรอบเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เพื่อให้สะอาดและป้องกันการอับชื้น 

— หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของ หรือสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองบริเวณจุดซ้อนเร้น

 

แต่ถ้าหากสาวๆ กำลังประจำเดือนไม่มาอยู่ล่ะก็ ลองเข้าไปดูตามนี้นะคะ

ประจำเดือนไม่มา

© 2020 ยาสตรี.com – All rights reserved.

Categories
ความรู้เกี่ยวกับยาสตรี

ปวดประจำเดือนทำยังไง?

ปวดประจำเดือนทำยังไง?

ความรู้เกี่ยวกับยาสตรี

10 วิธีรับมือ แก้ปวดท้องประจำเดือน อย่างไร ได้ผล ไม่ทรมานอีก!!

1. กินยาแก้ปวด ธุรกิจโฆษณา เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากในหมู่สาวๆ ยี่ห้อที่นิยมก็คือ พอนสแตน (Ponstan) สิ่งที่อยากแนะนำก็คือ อย่ากินยาขณะท้องว่าง เพราะยาเหล่านี้มีกรดรุนแรง อาจจะทำให้เราระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ 

2. ประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน เนื่องจากความร้อนจะช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว รวมถึงลดอาการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูก อาการปวดท้องของสาวๆ ก็จะค่อยๆ ทุเลาลง 

3. กินน้ำบ่อยๆ การดื่มน้ำจะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้สาวๆ ที่กำลังมีประจำเดือนควรทานน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้ลิ่มเลือดจับตัวเป็นก้อน แถมยังช่วยลดอาการปวดท้องได้อีกด้วย 

4. ดื่มน้ำขิง คุณสมบัติอย่างหนึ่งของน้ำขิงก็คือ ช่วยลดการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อผนังมดลูก ทำให้สาวๆ ไม่ต้องมานั่งทรมานกับอาการปวดท้องประจำเดือนอีกต่อไป แต่ถ้าไม่มีน้ำขิง จะเปลี่ยนเป็นการจิบชาคาโมมายล์อุ่นๆ แทน ก็ช่วยสร้างความผ่อนคลายและบรรเทาอาการปวดท้องได้ไม่แพ้กัน

5. กินอาหารที่มีประโยชน์ แม้ว่าในช่วงมีประจำเดือน เห็นอะไรแล้วก็อยากกินไปหมดก็ตาม แต่สาวๆ ก็จะต้องรู้จักเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ไว้ด้วย โดยเฉพาะอาหารที่มีโพแทสเซียม แคมเซียม รวมถึงธาตุเหล็กสูง โดยจะหาได้จากอาหารจำพวก กล้วย ถั่ว เครื่องในสัตว์ ตับหมู และเนื้อสัตว์ เพื่อทดแทนสิ่งที่สูญเสียไปพร้อมกับประจำเดือนของเรา ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบด้วย เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะมีสารแซนทีนอัลลอยด์ ที่จะเข้าไปกระตุ้นอาการปวดท้อง คราวนี้ไม่ต้องหายปวดกันพอดี 

6. ใส่เสื้อผ้าโปร่งสบาย ในช่วงที่ผู้หญิงอย่างเราๆ มีประจำเดือน แนะนำว่าให้งดใส่เสื้อผ้ารัดรูปไปก่อน เพราะนอกจากจะทำให้เราอึดอัด ไม่สบายตัวแล้ว ยังเพิ่มอาการปวดท้องมากขึ้นไปอีกด้วย

7. หากิจกรรมผ่อนคลายทำ แม้จะปวดท้องแค่ไหน ก็อยากปล่อยให้ตัวเองนอนซมอย่างเดียว พยายามลุกขึ้นมาหากิจกรรมอื่นๆ ทำบ้าง เช่น ดูหนัง อ่านหนังสือที่ชอบ เราจะได้ไม่โฟกัสอยู่ที่อาการปวดท้องเพียงอย่างเดียว 

8. ออกกำลังกายซะบ้าง การออกกำลังกายนี่แหละเป็นยาวิเศษสุดๆ หากสาวๆ คนไหนออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ คงไม่มีอะไรให้น่าห่วง สาวๆ บางคนอาจจะเกิดคำถามว่าช่วงมีประจำเดือน เราจะสามารถออกกำลังกายได้ไหม? ออกกำลังกายได้ค่ะ เพียงแต่ว่าจะต้องเป็นการออกกำลังกายประเภทเบาๆ เช่น โยคะ ท่าบริหารร่างกาย ยืดเส้นเบาๆ 

9. พักผ่อนให้เพียงพอ อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ก็คือ การนอนพักผ่อนให้มากๆ หากสาวๆ ปวดถึงขั้นลุกไม่ไหว ให้ประคบกระเป๋าน้ำร้อนควบคู่กันไปด้วย 

10. พบแพทย์ หากสาวๆ คนไหนที่ปวดท้องประจำเดือนทุกครั้ง แถมยังปวดแบบรุนแรงแบบทนไม่ไหว อย่านิ่งนอนใจเด็ดขาด! รีบลุกไปหาหมอ เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียดจะดีกว่านะคะ เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้รักษาได้ทัน
 
 

แต่ถ้าหากสาวๆ กำลังประจำเดือนไม่มาอยู่ล่ะก็ ลองเข้าไปดูตามนี้นะคะ

ประจำเดือนไม่มา

 

© 2020 ยาสตรี.com – All rights reserved.